By clicking “Accept All Cookies”, you agree to the storing of cookies on your device to enhance site navigation, analyze site usage, and assist in our marketing efforts. View our Privacy Policy for more information.

Policy

มาตรการป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์ (conflict of interest)

บริษัทฯได้วางหลักการป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์แยกตามประเภทของความขัดแย้งทางผลประโยชน์ออกเป็น3 ประเภท ดังนี้
  1. ผลประโยชน์ระหว่างบริษัทฯและลูกค้า เมื่อเกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์ในลักษณะดังกล่าว บริษัทฯได้วางหลักการเพื่อประกอบการพิจารณาและตัดสินใจ โดยให้พิจารณาจากความเป็นธรรม (fairness)ความโปร่งใส(accountability) และความรับผิดชอบต่อสังคมและผู้มีส่วนได้เสีย(responsibility) นอกจากนี้ บริษัทฯยังได้วางหลักการข้อห้ามปฏิบัติเพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงมิให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์ระหว่างบริษัทฯและลูกค้า เช่น ห้ามมิให้บริษัทฯ รับของขวัญ ของกำนัลหรือการเลี้ยงรับรองจากลูกค้า เว้นแต่เป็นของขวัญ ของกำนัลหรือการเลี้ยงรับรองที่เหมาะสมตามฐานานุรูป ซึ่งไม่ควรเกินครั้งละ 3,000บาทหรือเป็นปกติจารีตประเพณีซึ่งหากปฏิเสธแล้วจะทำให้เสียความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าเป็นต้น
  2. ผลประโยชน์ระหว่างบริษัทฯและบุคลากร เนื่องจากการป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์ในลักษณะนี้มีความสำคัญและมีรายละเอียดมากบริษัทฯ จึงได้แยกหัวข้อเป็นมาตรการป้องกันการใช้ข้อมูลภายใน (insidertrading) และมาตรการป้องกันการแสวงหาประโยชน์จากการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบซึ่งได้กำหนดเป็นมาตรการโดยละเอียดแยกต่างหากจากนโยบายนี้
  3. ผลประโยชน์ระหว่างบริษัทฯและบุคลากร บริษัทฯ ได้กำหนดหลักการข้อห้ามปฏิบัติเพื่อป้องกันมิให้เกิดความขัดแย้งลักษณะดังกล่าวแยกตามระดับชั้นของบุคลากรดังนี้
  4. (ก)  บุคลากรระดับบริหาร หมายถึง คณะกรรมการบริหารและผู้บริหาร ซึ่งทราบนโยบาย ความลับทางการค้าและข้อมูลระดับลับที่สุดหรือลับมากของบริษัทฯจึงต้องกำหนดหลักการห้ามมิให้มีผลประโยชน์ขัดแย้งกับบริษัทฯ เช่น ห้ามมิให้กรรมการบริหารและผู้บริหารเป็นกรรมการพนักงาน ที่ปรึกษา รับจ้าง หรือให้บริการในลักษณะใด ๆ แก่บุคคล ห้างหุ้นส่วนบริษัท หรือนิติบุคคลใด ๆที่มีลักษณะการประกอบธุรกิจรูปแบบเดียวกันและแข่งขันกับบริษัทฯ โดยตรง เป็นต้น
  5. (ข)  บุคลากรระดับปฏิบัติการ หมายถึงบุคลากรลำดับรองซึ่งปฏิบัติงานตามลำดับหรือจัดการงานที่ได้รับมอบหมายจากบุคลากรระดับบริหารดังนั้น บุคลากรระดับปฏิบัติการจะรู้เพียงข้อมูลระดับลับหรือใช้ภายในเท่านั้นมิได้ทราบนโยบาย ความลับทางการค้า หรือข้อมูลระดับลับที่สุดหรือลับมาก บริษัทฯจึงกำหนดหลักการห้ามมิให้มีผลประโยชน์ขัดแย้งกับบริษัทฯในลักษณะผ่อนปรนกว่าบุคลากรลักษณะแรก เช่น ห้ามมิให้บุคลากรระดับปฏิบัติการเป็นกรรมการพนักงาน ที่ปรึกษา รับจ้าง หรือให้บริการในลักษณะใด ๆ แก่บุคคล ห้างหุ้นส่วนบริษัท หรือนิติบุคคลใด ๆ ที่มีลักษณะการประกอบธุรกิจรูปแบบเดียวกันและแข่งขันกับบริษัทฯโดยตรงเว้นแต่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากกรรมการบริหารซึ่งมีอำนาจบังคับบัญชาโดยตรงโดยการอนุญาตต้องระบุรายละเอียด เหตุจำเป็นและระยะเวลาที่บุคลากรระดับปฏิบัติการจะต้องดำเนินการดังกล่าว เป็นต้น
  6. (ค)  คณะกรรมการตรวจสอบอิสระและผู้รับจ้างทั่วไป หมายถึง บุคลากรซึ่งมิได้ปฏิบัติงานให้แก่บริษัทฯ เต็มเวลาแต่ปฏิบัติงานเพียงชั่วระยะเวลาจำกัดเพื่อตอบสนองวัตถุประสงค์ตามสัญญาจ้างแรงงานหรือสัญญาจ้างทำของแล้วแต่กรณีบุคลากรลักษณะนี้จะรับทราบและเข้าถึงข้อมูลได้ตั้งแต่ระดับที่เปิดเผยเป็นการทั่วไป(official) จนถึงระดับลับที่สุดขึ้นอยู่กับประเภทของการให้บริการ บุคลากรประเภทนี้มิได้ทำงานให้แก่บริษัทฯเต็มเวลา แต่อาศัยรายได้จากการให้บริการผู้ประกอบธุรกิจอื่น บริษัทฯจึงไม่อาจกำหนดนโยบายห้ามแข่งขันทางการค้าเฉกเช่นกับบุคลากรอื่นได้ แต่อย่างไรก็ตามบุคลากรประเภทนี้ยังคงต้องอยู่ภายใต้นโยบายของบริษัทฯ เช่น บุคลากรลักษณะนี้ต้องไม่ใช้ข้อมูลที่ได้รับในฐานะพนักงานลูกจ้าง หรือผู้รับจ้างของบริษัทฯในทางที่มิชอบหรือก่อให้เกิดความเสียหายแก่บริษัทฯ เป็นต้น

มาตรการป้องกันการแสวงหาประโยชน์จากการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

บริษัทฯมีความมุ่งมั่นที่จะดำเนินกิจการภายใต้หลักการของกฎหมาย ความซื่อสัตย์สุจริตและมีคุณธรรม เป็นไปตามแนวทางการกำกับดูแลกิจการที่ดี จรรยาบรรณ และจริยธรรมธุรกิจตามที่ได้ระบุไว้เพื่อแสดงเจตนารมณ์และความมุ่งมั่นในการต่อต้านการทุจริตในทุกรูปแบบและส่งเสริมให้เกิดการดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใสบริษัทฯ มีเจตนารมณ์ที่จะดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับความรับผิดชอบต่อสังคมโดยยึดหลักจริยธรรมทางธุรกิจและการกำกับดูแลกิจการที่ดีการดำเนินกิจกรรมของบริษัทฯ มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของบุคลากรด้วยจิตอาสาเพื่อปลูกฝังจิตสำนึกในความรับผิดชอบต่อสังคมแก่บุคลากรในบริษัทฯทุกระดับอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ จึงได้กำหนดนโยบายการป้องกันการหาผลประโยชน์ในหน้าที่โดยมิชอบ

นโยบายการป้องกันการหาผลประโยชน์ในหน้าที่โดยมิชอบนี้มีผลบังคับใช้กับทุกหน่วยงานในบริษัทฯ โดยให้ยึดถือเป็นแนวทางในการปฏิบัติงาน
  1. บทบาทและหน้าที่ความรับผิดชอบ คณะกรรมการบริหารเป็นผู้รับผิดชอบให้การดำเนินกิจการของบริษัทฯ เป็นไปตามนโยบายด้วยความซื่อสัตย์สุจริตระมัดระวัง รักษาผลประโยชน์ของบริษัทฯโดยรวมและยังมีหน้าที่และรับผิดชอบในการกำหนดให้มีระบบการทำงานที่โปร่งใสตรวจสอบได้และส่งเสริมสนับสนุนนโยบายการป้องกันการหาผลประโยชน์ในหน้าที่โดยมิชอบพร้อมทั้งให้มีการสื่อสารไปยังบุคลากรและผู้เกี่ยวข้องรวมถึงมีหน้าที่ทบทวนความเหมาะสมของระบบการทำงานและมาตรการต่าง ๆให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจ ระเบียบ ข้อบังคับและข้อกำหนดของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
  2. แนวทางการปฏิบัติ      บริษัทฯให้ความสำคัญในการป้องกันมิให้เกิดการหาผลประโยชน์ในหน้าที่โดยมิชอบสำหรับตนเองหรือผู้อื่นในเรื่องต่างๆ ดังนี้
  3. (ก) ของขวัญ ของกำนัล การเลี้ยงรับรองและผลประโยชน์ ห้ามให้ รับ หรือรับว่าจะให้ของขวัญของกำนัล รวมถึงผลประโยชน์อื่นใด เพื่อจูงใจให้เกิดการปฏิบัติหรือละเว้นจากการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรืออาจทำให้เกิดการยินยอมผ่อนปรนในหลักเกณฑ์หรือข้อตกลงทางธุรกิจที่ไม่เหมาะสมและให้ถือปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในจรรยาบรรณและจริยธรรมธุรกิจจริยธรรมของกรรมการ และจริยธรรมของบุคลากรบริษัทฯ ทุกระดับ
  4. (ข)    สินบนและสิ่งจูงใจ ห้ามให้หรือรับสินบนและสิ่งจูงใจในรูปแบบใดๆ ทั้งสิ้น และห้ามมอบหมายให้ผู้อื่นให้หรือรับสินบนและสิ่งจูงใจแทนตนเอง
  5. (ค)    การบริจาคเพื่อการกุศลและการให้เงินสนับสนุน การบริจาคเพื่อการกุศลและการให้เงินสนับสนุนต้องเป็นไปอย่างโปร่งใสไม่ขัดต่อกฎหมาย และศีลธรรม
  6. (ง) กิจกรรมและการมีส่วนร่วมทางการเมือง บริษัทฯ ไม่อนุญาตให้นำเงินทุนหรือทรัพยากรของบริษัทฯไปใช้สนับสนุนทางการเมืองให้แก่ผู้ลงสมัครแข่งขันเป็นนักการเมืองหรือพรรคการเมืองใดเพื่อการรณรงค์ทางการเมืองหรือการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองยกเว้นการให้ความสนับสนุนนั้นได้รับอนุญาตตามกฎหมายและสนับสนุนประชาธิปไตยโดยรวม

มาตรการป้องกันการใช้ข้อมูลภายใน (insidertrading)

           เพื่อป้องกันมิให้เกิดการกระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลโดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้หรือเปิดเผยข้อมูลภายในตามมาตรา42อันเป็นความผิดตามมาตรา 70 แห่งพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 บริษัทฯจึงได้กำหนดมาตรการเชิงป้องกันดังต่อไปนี้
  1. กรรมการผู้บริหาร ผู้รับจ้าง ลูกจ้าง พนักงาน และบุคลากรทุกคนของบริษัทฯจะต้องลงนามในสัญญารักษาความลับว่าจะไม่เปิดเผยข้อมูลใด ๆที่ได้รับจากการทำงานให้แก่บุคคลที่สาม
  2. บริษัทฯ ต้องจัดลำดับการเข้าถึงข้อมูลอันเป็นความลับตามอำนาจหน้าที่ของกรรมการผู้บริหาร ลูกจ้าง พนักงาน และบุคลากรทุกคน โดยบุคลากรที่มิได้มีหน้าที่เกี่ยวข้องโดยตรงจะเข้าถึงข้อมูลภายในอันส่งผลกระทบต่อราคาซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลมิได้
  3. ในกรณีที่กรรมการผู้บริหาร ลูกจ้าง พนักงาน บุคลากร หรือบุคคลผู้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดใช้บริการซื้อขายแลกเปลี่ยนกับผู้ประกอบการรายอื่นบุคคลดังกล่าวจะต้องจัดส่งธุรกรรมให้บริษัทฯ ตรวจสอบ
  4. พนักงาน compliance เป็นผู้มีหน้าที่ตรวจสอบความผิดปกติของการซื้อขายว่ามีลักษณะการใช้ข้อมูลภายในหรือไม่โดยต้องประสานงานกับแผนกวิเคราะห์ข้อมูล (data analysis) เพื่อเปรียบเทียบพฤติกรรมการใช้บริการของลูกค้าทั่วไป            

    ความในข้อ3. และข้อ 4. ไม่ใช้บังคับแก่ผู้รับจ้างผู้ต้องปฏิบัติตามมาตรฐานวิชาชีพที่ผลิตหรือให้บริการแก่บริษัทฯเป็นครั้งคราวและมีการทำสัญญารักษาความลับตามข้อ 1. แล้ว

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัท ซาโตชิจำกัด("บริษัท") ในฐานะผู้ให้บริการแพลตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลแก่ผู้ใช้บริการผ่านทาง www.kulap.io หรือเว็บไซต์ใดๆที่เกี่ยวข้องกับ APIs แอปพลิเคชันโทรศัพท์มือถือ หรือบริการใดๆในอนาคต ("แพลตฟอร์ม") ให้ความเชื่อมั่นแก่ท่านว่าข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดของท่าน เป็นข้อมูลที่ทางบริษัทให้ความสำคัญโดยบริษัทรับประกันจะปก ป้องและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลด้วยมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสมอย่างดีที่สุด

เมื่อท่านในฐานะผู้ใช้บริการของบริษัท("ผู้ใช้บริการ") ไม่ว่าในนามส่วนบุคคลและในนามบริษัทเข้าถึงแพลตฟอร์มติดต่อ และ/หรือใช้บริการของทางบริษัทรวมถึงกรณีที่ท่านส่งข้อมูลส่วนบุคคลใดๆของท่าน ให้แก่บริษัท หรือให้ความยินยอมใดๆแก่บริษัท ภายใต้เงื่อนไขและข้อกำหนดที่ระบุไว้ในนโนยบายข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้บริษัทจะถือว่า ท่านตกลงและยอมรับที่ จะปฏิบัติตามนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้แล้วทั้งนี้นโยบายข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้มีจุดประสงค์เพิ่มเติม โดยไม่มีผล เปลี่ยนแทนหรือทดแทนการให้ความยินยอมใดๆซึ่งท่านอาจเคยได้ให้แก่ บริษัทในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ ข้อมูลส่วนบุคคลของ ท่าน

กรุณาศึกษานโยบายข้อมูลส่วนบุคคลพร้อมกับเงื่อนไขการให้บริการของบริษัทอย่างละเอียด หากท่านไม่ตกลงให้ทางบริษัท ดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่ระบุไว้นี้ บริษัทสงวนสิทธิที่จะปฏิเสธการให้บริการใดๆแก่ท่าน เนื่อง จากการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้นโยบายฉบับนี้ มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการปฏิบัติหน้าที่ในการให้บริการโดย บริษัทแก่ท่าน

นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้มีผลใช้บังคับกับแพลตฟอร์ม การติดต่อ และ/หรือการบริการของบริษัทเท่านั้นไม่มีผลใช้ บังคับกับแอปพลิเคชั่น บริการ หรือเว็บไซต์อื่นๆ ที่เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มของบริษัทซึ่งเป็นของบุคคลภายนอก และ บริษัทไม่มีอำนาจควบคุมซึ่งเป็นส่วนที่ผู้ใช้บริการต้องทำความตกลงและศึกษาเกี่ยวกับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลที่บังคับใช้ และประกาศโดยบุคคลภายนอกดังกล่าวแยกต่างหาก 

บริษัทอาจปรับปรุงนโยบายฉบับนี้ตามแต่ละระยะเวลาเพื่อให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติและกฎหมาย ข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง และ ให้สอดคล้องกับการให้บริการต่างๆของบริษัททั้งนี้ บริษัทจะแจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบถึงการเปลี่ยนแปลงด้วย การประกาศ นโยบายฉบับปรับปรุงใหม่ให้ผู้ใช้บริการทราบโดย นโยบาย นั้นจะถือว่ามีผลบังคับใช้ เมื่อบริษัทได้ประกาศ

ลักษณะข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทประมวลผลในการให้บริการและติดต่อกับท่านผู้ใช้บริการ

การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ระบุไว้ภายใต้เงื่อนไขนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้มีความจำเป็น สำหรับการดำเนินกระ บวนการทางธุรกิจของบริษัทโดยเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการโดยตรงแก่ท่านในฐานะผู้ใช้บริการ ไม่ว่าจะเป็นการประเมินและตรวจสอบคุณสมบัติของท่าานผู้ใช้บริการ ภายใต้กรอบของกฎหมายที่เกี่ยข้องซึ่งรวมถึง กฎหมายเกี่ยวกับการ ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินกฎหมายเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล และกฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง และการให้บริการในการทำธุรกรรมซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านแพลตฟอร์ม การส่งหนังสือบอกกล่าวการติดต่อสื่อสารตอบกลับการทำ ธุรกรรมของท่าน การบริหารความสัมพันธ์กับท่านในฐานะลูกค้าการนำเสนอบริการใหม่หรือการจัดกิจกรรมต่างๆ รวมถึง กระบวนการในการวางแผนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ในอนาคตของบริษัททั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทมี ความจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูล มีดังนี้
  1. ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับท่านอาทิ ชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด สัญชาติ รายละเอียดและเลขบัตรประจำตัวประชาชน ภาพถ่ายบัตรประชาชนภาพถ่ายใบหน้า อาชีพ ระดับรายได้
  2. ข้อมูลการติดต่ออาทิ ที่อยู่ สถานที่ติดต่อ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล
  3. ข้อมูลการใช้บริการของท่านเช่น รายการธุรกรรมการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลและ/หรือบริการอื่นๆของท่านผ่านแพลตฟอร์ม ชื่อบัญชีผู้ใช้บริการ รหัสผ่าน ประวัติการทำธุรกรรมต่างๆที่ผู้ใช้บริการดำเนินการ ผ่านระบบหรือแพลต ฟอร์มของบริษัทรวมถึงข้อมูลการชำระเงินต่างๆภายใต้ธุรกรรมการซื้อขายดังกล่าว ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลเลขบัญชีธนาคาร ข้อมูลที่อยู่กระเป๋าสินทรัพย์ดิจิทัล หรือข้อมูลบัตรเครดิตต่างๆที่ผู้ใช้บริการได้ลงทะเบียนเพื่อการใช้บริการของ แพลตฟอร์ม
  4. ข้อมูลความสนใจและความต้องการของท่าน ทั้งนี้เพื่อให้เราสามารถปรับการนำเสนอผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการได้เหมาะสมกับท่านมากที่สุด
  5. ข้อมูลทางเทคนิคในการระบุตัวตนอาทิ หมายเลขระบุตำแหน่งคอมพิวเตอร์ (IP Address) การตั้งค่าและ การเชื่อมต่อบราวเซอร์ของอุปกรณ์ที่ผู้ใช้บริการใช้เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มของบริษัทและอาจรวมถึงการใช้ Cookies ต่างๆ เพื่อการติดตามพฤติกรรมการใช้งานของท่าน
  6. ข้อมูลอื่นที่ท่านอาจให้เกี่ยวกับลักษณะการทำการตลาดที่ท่านต้องการ หรือข้อมูลที่ท่านให้เพื่อการเข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมการขาย การสำรวจ การแข่งขัน การชิงรางวัล หรือกิจกรรมส่งเสริมการขายลักษณะใดๆกับบริษัท
  7. ข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆที่ท่านอาจให้แก่บริษัทระหว่างการติดต่อสื่อสารเพื่อการให้บริการแก่ท่าน หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่ ท่านอาจให้ยินยอมแก่บริษัทในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว

บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อ:

  1. ท่านติดต่อกับบริษัท(เช่นเมื่อท่านติดต่อเพื่อสอบถามข้อมูล ใช้บริการทำธุรกรรมต่างๆผ่านทางแพลตฟอร์มทางโทรศัพท์ และทางอีเมล)
  2. ท่านส่งข้อมูลของท่านเพื่อการลงทะเบียนเปิดบัญชีผู้ใช้งานกับบริษัท ผ่านทางแพลตฟอร์ม
  3. ท่านลงทะเบียนความสนใจและให้ความสนใจสมัครรับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการ รวมถึง การสื่อสารประชาสัมพันธ์อื่นๆ จากบริษัท
  4. ท่านเข้าร่วมการทำแบบสำรวจการแข่งขัน การชิงรางวัล หรือกิจกรรมส่งเสริมการขายอื่น
  5. ท่านให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับการให้บริการของบริษัท(เช่นการแสดงความคิดเห็นผ่านทางแพลตฟอร์มของบริษัท) และ/ หรือ
  6. ท่านส่งข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บริษัทด้วยเหตุผลอื่น
นอกเหนือจากการได้รับข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรงจากท่าน(ตามที่ระบุไว้ข้างต้น)แล้วบริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน จากบุคคลอื่นที่ท่านอาจได้ติดต่อและให้ความยินยอมในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งในกรณีดังกล่าวการที่บุคคลอื่นส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บริษัทบริษัทจะถือว่าและเชื่อว่าบุคคลดังกล่าวได้รับความยินยอมจากทางท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลในการดำเนินการดังกล่าวแล้วท่านได้ให้การรับประกันว่าท่านในฐานะบริษัทนายจ้างได้รับความยินยอมหรือมีสิทธิในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังกล่าวให้แก่บริษัทแล้ว

จุดประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้แก่บริษัทจะได้รับการเก็บและใช้เพื่อจุดประสงค์ต่างๆ ซึ่งรวมถึงจุดประสงค์ดังต่อไปนี้
  1. การตรวจสอบคุณสมบัติและการยืนยันตัวตนของท่านสำหรับการใช้บริการของบริษัทภายใต้เงื่อนไขกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและภายใต้กฎหมายที่กำกับการดำเนิน​ธุรกิจของบริษัทซึ่งรวมถึง กฎหมายสินทรัพย์ดิจิทัลและคำแนะนำ กฎระเบียบของหน่วยงานกำกับดูแลต่างๆ
  2. การส่งหนังสือบอกกล่าวการติดต่อกลับที่เกี่ยวเนื่องกับการทำธุรกรรมการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลของท่านผ่านแพลตฟอร์มซึ่งรวมถึงกระบวนการสร้างคำสั่งซื้อการชำระราคาและการส่งมอบทรัพย์สินภายหลังการทำธุรกิจหรือการให้บริการสนับสนุนผู้ใช้บริการในลักษณะอื่นที่เกี่ยวข้อง
  3. ในกรณีที่ได้รับความยินยอมจากท่านการส่งข้อมูลให้แก่ท่านผ่านทางอีเมลหรือช่องทางการติดต่ออื่นหรือ การติดต่อผ่านทางช่องทางโซเชียลมีเดียใดๆเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทซึ่งตรงกับความสนใจของท่าน
  4. การสร้างและปรับปรุงความสัมพันธ์ทางธุรกิจที่บริษัทมีกับท่านซึ่งอาจรวมถึงการฝึกอบรมพนักงานและการควบคุมรับประกันคุณภาพโดยเฉพาะส่วนของพนักงานที่รับผิดชอบประสานงานกับลูกค้าผ่านช่องทางการติดต่อต่างๆรวมถึง การวิเคราะห์ สอบสวน จัดการและแก้ไขปัญหาต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการทั้งนี้บริษัทจะประเมินถึงความจำเป็นในการใช้ข้อมูลเพื่อจุดประสงค์ดังกล่าวเพื่อความจำเป็นเท่านั้น
  5. การจัดการตอบรับการสื่อสารที่ท่านติดต่อบริษัท (เช่น เพื่อการตอบคำถามหรือการจัดการข้อร้องเรียน การใช้บริการหรือการให้ความคิดเห็นต่างๆ)
  6. การวิเคราะห์ความสนใจของท่านเพื่อใช้ในการที่บริษัทจะปรับปรุงรูปแบบการให้บริการโดยเฉพาะการออกแบบกระบวนการกลไกการวิเคราะห์และทดสอบต่างๆ ให้สามารถตอบสนองความต้องการและความสนใจของท่านได้มากขึ้นหรือเพื่อการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นระหว่างบริษัทและท่าน
  7. การป้องกันและตรวจสอบการกระทำที่อาจผิดกฎหมายหรือผิดเงื่อนไขการใช้บริการของบริษัทเช่นการป้องกันและ การปกป้องสิทธิกรณีการละเมิดเงื่อนไขการให้บริการของบริษัทรวมถึงการวิเคราะห์และบริหารจัดการความเสี่ยงเชิง พาณิชย์และความเสี่ยงอื่นของบริษัท
  8. การเข้าถึงหรือเข้าร่วมในการแข่งขันกิจกรรมส่งเสริมการขายหรือกิจกรรมแลกคะแนนสะสมต่างๆที่บริษัทจัดขึ้นซึ่งท่านอาจตกลงเข้าร่วมภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดไว้
  9. การปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายที่บริษัทอาจมีและต้องปฏิบัติตาม เช่นหน้าที่ในการจัดทำบัญชีและชำระภาษีหรือหน้าที่ภายใต้พระราชบัญญัติเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์หรือการให้บริการอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ
  10. จุดประสงค์อื่นใดที่พิจารณาได้ว่ามีความเกี่ยวข้องกับจุดประสงค์ที่ระบุไว้
บริษัทมีความจำเป็นต้องประมวลผล  และเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อจุดประสงค์ต่างๆที่ระบุไว้ข้างต้น ตลอด ระยะเวลาตราบเท่าที่บริษัทยังมีหน้าที่ตามสัญญาการให้บริการหรือตามกฎหมายต่อท่าน  และอาจต่อเนื่องไปภายหลังการสิ้นสุดหน้าที่ตามสัญญาหากเป็นส่วนที่บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมตามบทบัญญัติกฎหมายที่เกี่ยวข้อง       หรือการ เก็บรวบรวมเพื่อการต่อสู้หรือปกป้องสิทธิที่บริษัทอาจมีต่อท่าน  โดยเฉพาะส่วนของการป้องกันการกระทำผิดกฎหมายโดยเก็บต่อเนื่องเป็นระยะเวลาที่เหมาะสมและจำเป็นในการดำเนินการดังกล่าว และสำหรับการประมวลผลข้อมูลด้วยความยินยอมที่ท่านได้ให้แก่บริษัทบริษัทจะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจนกว่าท่านจะใช้สิทธิในการยกเลิกความยินยอมที่ท่านได้ให้แก่บริษัททั้งนี้ การที่ท่านยังคงใช้บริการของบริษัทอยู่ บริษัทจะถือว่าท่านยอมรับนโยบายฉบับนี้เสมอ

การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

โดยหลักการแล้วข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้แก่บริษัทจะได้รับการเก็บเป็นความลับแต่ในบางกรณีข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจมีความจำเป็นต้องได้รับการเปิดเผยให้แก่บุคคลดังนี้เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาหรือตามกฎหมายที่บริษัทอาจมีดังนี้
  1. เปิดเผยให้แก่ผู้ให้บริการภายนอกของบริษัท(ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงบริษัทในเครือหรือบริษัทพันธมิตรทางธุรกิจและการค้า) ที่ให้การช่วยเหลือสนับสนุนบริษัทในการให้บริการแก่ท่านเช่น บริษัทเครือข่ายที่เข้าร่วมในการทำธุรกรรมซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลที่ปรึกษารวมถึงผู้ให้บริการภายนอกที่ให้บริการประเมินการทำงานของแพลตฟอร์มโดยบริษัทจะดำเนินการส่งต่อและเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามขอบวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้เท่านั้นและบนพื้นฐานเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
  2. ข้อมูลต่างๆในการให้บริการของบริษัทซึ่งรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจได้รับการเก็บรักษาไว้ในระบบ Cloud (ซึ่งอาจเป็นหน่วยงานภายในหรือต่างประเทศ)ทั้งนี้ในการใช้บริการดังกล่าวบริษัทรับประกันการตั้งค่าการรักษาความมั่นคงปลอดภัยและความลับของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระดับพิเศษด้วยมาตรฐานที่เหมาะสมกับความเสี่ยง
  3. บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อความจำเป็นในการปกป้องและต่อสู้สิทธิใดๆของบริษัทหรือเพื่อการป้องกันและตรวจสอบลักษณะการกระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับการใช้บริการของท่านซึ่งอาจกระทบสิทธิของบุคคลอื่นโดยบริษัทรับประกันจะดำเนินการดังกล่าวเท่าที่จำเป็นด้วยจุดประสงค์ดังกล่าวเท่านั้น
  4. ในกรณีที่บริษัทมีหน้าที่ตามกฎหมายหรืออยู่ภายใต้บังคับคำพิพากษาหรือคำสั่งของหน่วยงานราชการบริษัทมีความจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่หน่วยงานดังกล่าวเพื่อเป็นการปฏิบัติตามหน้าที่ที่มีตามกฎหมายโดยบริษัทจะดำเนินการเพียงเท่าที่จำเป็นตามหน้าที่ดังกล่าวเท่านั้น
  5. หน่วยงานอื่นซึ่งท่านเคยได้ให้ความยินยอมโดยชัดแจ้งให้เราสามารถเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวได้

Cookies ที่บริษัทใช้ในการให้บริการแก่ท่าน

Cookiesคือ text files ที่อยู่ใน Browser ของผู้ใช้บริการใช้เพื่อจัดเก็บรายละเอียดข้อมูล บันทึกการใช้งาน อินเตอร์เน็ตหรือพฤติกรรมการเยี่ยมชมแพลตฟอร์มของผู้ใช้บริการ ทั้งนี้ เพื่อรับประกันประสิทธิภาพในการทำงาน ให้บริการของแพลตฟอร์มแก่ผู้ใช้บริการ บริษัทมีความจำเป็นต้องใช้ Cookiesหลายประเภทเพื่อจุดประสงค์ต่างกันไป โดย แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ต่อไปนี้
  1. StrictlyNecessary Cookies เป็น Cookies ประเภทที่มีความจำเป็นอย่างมากต่อการทำงานของแพลตฟอร์ม และ การให้บริการแก่ผู้ใช้งาน ในการเข้าถึงข้อมูลได้อย่างทั่วถึงและปลอดภัย
  2. OtherCookies:ซึ่งอาจรวมถึง Cookies ประเภท Functionality Cookies ที่ทำหน้าที่จดจำสิ่งที่ผู้ใช้บริการเลือกหรือตั้งค่าบนแพลตฟอร์ม เช่น ชื่อบัญชีผู้ใช้ ภาษา ฟ้อนต์ และรูปแบบแพลตฟอร์ม เพื่อการนำเสนอข้อมูล ที่ตรงความต้องการเฉพาะบุคคลให้แก่ผู้ใช้บริการได้มากขึ้น ตามการตั้งค่าต่างที่เลือกไว้ หรือ Cookies ประเภทPerformance Cookiesที่ทำหน้าที่ประเมินประสิทธิภาพในการทำงานแต่ละส่วนของเว็บไซต์และ Cookies ประเภท Advertising Cookies ที่ทำหน้าที่ในการจดจำสิ่งที่ท่านเคยเยี่ยมชมรวมถึง ลักษณะการ ใช้เว็บไซต์ของผู้ใช้บริการ เพื่อนำเสนอสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวข้องและตรงกับความสนใจของผู้ใช้บริการ
สำหรับ Cookies ประเภท StrictlyNecessary Cookies นั้น บริษัทขอชี้แจงให้ท่านผู้ใช้บริการทราบว่าทางบริษัทมี ความจำเป็นในการใช้ Cookies ดังกล่าวเพื่อการให้บริการของเว็บไซต์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ หากบริษัทไม่ใช้ Cookiesประเภทดังกล่าว บริษัทย่อมไม่สามารถให้บริการแก่ท่านผู้ใช้บริการได้ และในส่วนของCookies ประเภทอื่นนั้น หากได้รับ ความยินยอมจากท่านในการอนุญาตให้บริษัทใช้Cookies ดังกล่าว บริษัทจะใช้ Cookies ดังกล่าว ทั้งหมด เพื่อจุดประสงค์เฉพาะที่ได้ระบุไว้สำหรับแต่ละประเภทCookies

แม้ว่าการใช้ Cookies จะมีประโยชน์ในการเสริมประสิทธิภาพในการให้บริการและการทำงานของเว็บไซต์แก่ท่านผู้ใช้บริการ แต่หากผู้ใช้บริการต้องการ ท่านสามารถลบการตั้งค่า Cookies บน Browser ของตนเองได้ ทั้งนี้ การดำเนินการ ดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการทำงานให้บริการ ของเว็บไซต์ได้ในบางส่วนตามจุดประสงค์ที่ระบุไว้สำหรับแต่ละประเภทของ Cookies ดังกล่าว

การทำการตลาดทางตรง

หากท่านได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทแล้ว บริษัทอาจใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการอื่นๆของบริษัท และ/หรือของบริษัทในเครือหรือพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทซึ่งอาจเป็นที่น่าสนใจหรือเป็นประโยชน์แก่ท่านได้ เว้นแต่ท่านใช้สิทธิในการถอนความยินยอมดังกล่าว

คำรับประกันการดำเนินมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยในข้อมูลที่เหมาะสม

บริษัทรับประกันจัดให้มีมาตรการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการเข้าถึงการใช้ การเปลี่ยนแปลงการแก้ไขหรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ นอกจากนี้บริษัทได้กำหนดแนวปฏิบัติภายในเพื่อกำหนดสิทธิในการเข้าถึงหรือการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อรักษาความลับและความปลอดภัยของข้อมูลทั้งนี้ บริษัทจะจัดให้มีการทบทวนมาตรการดังกล่าวเป็นระยะเพื่อความเหมาะสมตามมาตรฐานในอุตสาหกรรมและโดยสอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งนี้มาตรการดังกล่าวอาจรวมถึงมาตรการดังนี้
  1. การเก็บและใช้ข้อมูลในลักษณะนิรนาม(Anonymization) ให้ได้มากที่สุดโดยจะมีการแยกส่วนของข้อมูลที่สามารถใช้เพื่อระบุตัวตนของท่านซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลออกจากข้อมูลส่วนอื่นเพื่อลดความเสี่ยงของการที่บุคคลซึ่งได้รับข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจะสามารถดำเนินการระบุตัวตนของเจ้าของข้อมูลได้
  2. กระบวนการเข้ารหัสข้อมูล(ถ้าจำเป็น)และการจำกัดขอบเขตของผู้มีสิทธิเข้าถึงข้อมูล ทั้งทางด้านกายภาพและผ่านทางระบบโดยต้องมีระบบในการบันทึกเพื่อการตรวจสอบการเข้าถึงข้อมูลดังกล่าว
  3. กระบวนการในการติดตามตรวจสอบเฝ้าระวังความเสี่ยงในการถูกโจมตีเพื่อการขโมยหรือเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต​โดยบริษัทจะกำหนดการตั้งค่าและดำเนินการตรวจสอบระบบอย่างเป็นปกติและเหมาะสมพร้อมทั้งกำหนดแผนในการดำเนินฉุกเฉิน กรณีเกิดเหตุการณ์ต่างๆขึ้น ซึ่งรวมถึงกระบวนการในการรายงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและเจ้าของข้อมูลที่ได้รับผลกระทบภายใต้กรอบระยะเวลาที่เหมาะสมตามที่กฎหมายกำหนด
  4. กรณีของการแลกเปลี่ยน ส่งต่อหรือเปิดเผยข้อมูลให้แก่บุคคลภายนอกบริษัทกำหนดการทำข้อตกลงระบุชัดเจนเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ในส่วนของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรและมีระบบในการติดตามการปฏิบัติตามหน้าที่ที่ระบุไว้ดังกล่าวพร้อมทั้งกำหนดกระบวนการในการบริหารจัดการกรณีเกิดเหตุละเมิดขึ้นอย่างถูกต้องและเหมาะสม

สิทธิของเจ้าของข้อมูล

บริษัทรับทราบและเคารพสิทธิตามกฎหมายของท่าน ท่านสามารถใช้สิทธิตามเงื่อนไขกำหนดสิทธิที่ระบุไว้ในกฎหมายดังนี้
  1. สิทธิในการขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเว้นแต่กรณีบริษัทมีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่านตามกฎหมายหรือคำสั่งศาลหรือคำขอของท่านก่อให้เกิดผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
  2. สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ให้ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน
  3. สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เว้นแต่กรณีบริษัทมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการปฏิเสธคำขอของท่านเช่น เมื่อบริษัทแสดงได้ว่าการปฏิเสธคำขอของท่านนั้นมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายยิ่งกว่าเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมายหรือเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัท เป็นต้น
  4. สิทธิในการการขอรับหรือขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลเว้นแต่กรณีบริษัทไม่สามารถกระทำได้โดยสภาพทางเทคนิคหรือมีเหตุแห่งการปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย
  5. สิทธิในการขอให้ลบหรือทำลายหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคล ให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้เมื่อข้อมูลนั้นหมดความจำเป็นหรือเมื่อมีการถอนความยินยอมเว้นแต่กรณีบริษัทมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการปฏิเสธคำขอของท่าน
  6. สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลในบางกรณี เช่น ผู้ใช้บริการต้องการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายหรือยกเป็นข้อต่อสู้ตามกฎหมายจึงจำเป็นให้บริษัทเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลจึงระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลแทนการลบหรือทำลายเป็นต้น
  7. สิทธิถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้โดยมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมที่ท่านให้ไว้กับบริษัทเมื่อใดก็ได้ตามขั้นตอนและวิธีการที่บริษัทกำหนด เว้นแต่โดยสภาพแล้วไม่สามารถถอนความยินยอมได้ทั้งนี้ การถอนความยินยอมย่อมไม่กระทบต่อความยินยอมที่ท่านได้ให้ไว้โดยชอบก่อนที่มีการถอนความยินยอมนั้น
  8. สิทธิร้องเรียน ท่านมีสิทธิที่จะร้องเรียนต่อคณะกรรมการการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหากบริษัทกระทำอันไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
ท่านสามารถติดต่อมายังบริษัทเพื่อดำเนินการขอใช้สิทธิข้างต้นได้ ตามรายละเอียดการติดต่อที่บริษัทได้กำหนดไว้ โดยบริษัทจะพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาคำร้องของท่านให้ทราบภายใน 30วันนับแต่วันที่ได้รับคำร้องขอดังกล่าว
ช่องทางการติดต่อรายละเอียดผู้ควบคุมข้อมูล
ชื่อ: บริษัทซาโตชิ จำกัด
สถานที่ติดต่อ: เลขที่ 3 อาคารพร้อมพันธุ์ 3 ชั้น 11 ซอยลาดพร้าว 3 ถนนลาดพร้าว แขวงจอมพลเขตขตุจักร กรุงเทพมหานคร
ช่องทางการติดต่อ: 0971342090
อีเมล: [email protected]
เว็บไซต์: www.kulap.io

รายละเอียดตัวแทนผู้รับผิดชอบ
ชื่อ: ศรัณย์ แสงสมบูรณ์
สถานที่ติดต่อ: เลขที่ 3 อาคารพร้อมพันธุ์ 3 ชั้น 11 ซอยลาดพร้าว 3 ถนนลาดพร้าว แขวงจอมพล เขตขตุจักรกรุงเทพมหานคร
ช่องทางการติดต่อ: 0971342090
อีเมล: [email protected]